" "

พรีเมียร์ลีกนัดสำคัญ ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม ถือเป็นอีกนัดหนึ่งที่สำคัญของชีวิตนักเตะและผู้จัดการทีมไม่ว่าจะเป็นนักเตะตำแหน่งผู้รักษาประตูของสิงโตน้ำเงินครามเซลซี หรือจะเป็นการวางแผนทำเกมของแลมพาร์ด รวมถึงการคว้าตัวนักเตะวัยเก๋าคาวานี่ของทีมปีศาจแดง เกิดบทพิสูจน์ขึ้นมากมาย วันนี้เราย้อนเวลาไปติดตามกัน

อาซาร์ด ฮีโร่ ! 'สิงห์' สวนคม เปิดถ้ำจับ 'ผี' ลงหม้อ 1-0

ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม บนสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

นัดสำคัญ ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม ในพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมาแม้ผลการแข่งขันจะจบลงเป็นกินกันไม่ลงของทั้งสองทีมด้วยสกอร์ 0 ประตูต่อ 0 ตกยกความสำคัญในเกมนี้ให้กับการวางแผนของกุนซือทั้งสองทีมเป็นสำคัญ ทั้งแลมพาร์ด และโซลชา ถือว่ามีส่วนสำคัญทั้งสิ้นแต่จะสำคัญในแง่บวกหรือลบต้องติดตามกันต่อไป

ความพร้อมของทีมปีศาจแดงและสิงโตน้ำเงินคราม

ในการทำศึกระหว่างทีม ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม ก่อนที่จะลงสนามแข่งขันแต่ละทีมมีความพร้อมเพียงใด ทำไมที่สุดแล้วผลของสกอร์ถึงจบลงที่ 0 ประตูต่อ 0 ทั้งที่เป็นเกมสนุกและบุกด้วยกันทั้งสองทีม

  1. ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับว่ากลับมาคืนฟอร์มและเรียกขวัญกำไรใจได้อีกครั้งหลังจากนัดล่าสุดในศึกยูโรแขมป์เปียนลีก ปีศาจแดงสามารถเอาชนะทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมงไปได้และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของรายการ ก่อนที่จะได้เตะกันอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยคาดการณ์กันว่าในการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมสิงโตน้ำเงินครามเซลซีครั้งนี้ โซลชาต้องเปิดเกมรุกทางด้านริมเส้นเป็นหลักโดยอาศัยความเร็วและความแม่นยำในการจ่ายบอลโยนบอลของบรูโนช่วยทำเกม

สำหรับตัวนักเตะของทีมที่ไม่สามารถใช้งานได้ประกอบไปด้วยเอริค ไบญี เพราะที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนอ็องโตนี มาร์กซิยาล ที่ติดโทษแบนจากใบแดง นอกจากนี้แล้วยังต้องดูความฟิตของร่างกายสำหรับเมสัน กรีนวูด และ แฮร์รี แม็คไกวร์ ก่อนอีกครั้ง

นักเตะ 11 ตัวจริงที่จะลงสนามในการทำศึก ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม ได้แก่ เด เคอา, เทลเลส, แม็คไกวร์, ลินเดอเลิฟ, วาน บิสซาก้า, มาติช, ป็อกบา, บรูโน, มาต้า, คาวานี, แรชฟอร์ด ซึ่งปรากฏว่าแฟนบอลต่างผิดหวังไปตามๆ กันเมื่อถึงวันแข่งขันปรากฏว่าคาวานี่ไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง หรือแม้จะเปลี่ยนตัวลงในฐานะตัวสำรอง ทำให้เกิดข้อข้องใจว่าคาวานี่สามารถสร้างผลงานได้ดีแต่ทำไมไม่ใช้งานสักทีแบบเต็มเวลาทำศึก

  1. ทีมเชลซี แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังไม่สามารถสร้างผลงานที่ดีได้รบมา 8 นัดชนะเพียง 3 นัดและ 2 นัดล่าสุดก็เสมอ แต่ด้วยเหตุที่แลมพาร์ดคุ้นเคยกับการเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด การวางแผนทำศึกในครั้งนี้ แลมพาร์ดเลือกที่จะเปลี่ยนระบบการเล่นเสียใหม่จากเดิม 4-2-3-1 มาเป็น 3-4-2-1

แผนการเล่นใหม่นี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้กองกลางแข็มแข็งและนักเตะในตำแหน่งสามารถคุมพื้นที่ได้ดีขึ้นในชณะที่สามารถเล่นริมเส้นได้สะดวกขึ้นอีกด้วยซึ่งทำให้เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และรีซ เจมส์มีความชัดเจนในการเล่นและไม่ทับซ้อนหน้าทีกัน ส่งผลให้เกมรุกของเซลซีมีความไหลลื่นและต่อเนื่องมากกว่าเดิม

สภาพนัดเตะของทีมมีเพียงบิลลี กิลมอร์ ที่บาดเจ็บไม่สามารถลงช่วยทีมได้เท่านั้น และเป็นนัดสำคัญที่แลมพาร์ดเลือกใช้นายทวารผิวสีแมนดี้ ลงสนามอีกครั้งหลังจากคลีทชีทได้ติดต่อกันหลายนัดและมีเปอร์การเสียประตูไม่ถึง 1% จากการลงสนาม

นักเตะ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงทำศึก ได้แก่ เมนดี้, อัซปิลิกวยต้า, คริสเตนเซน, ซิลวา, ชิลเวลล์, ฮาเวิร์ตซ์, ก็องเต้, โควาชิช, พูลิซิช, แวร์เนอร์ และ ซิเย็ค

บทวิเคราะห์การทำศึกระหว่างแมนยูและเซลซี

สำหรับนัด ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม ครั้งนี้มีกูรูวงการฟุตบอลให้ทัศนะก่อนการแข่งขันที่น่าสนใจมากมาย เรามาลองศึกษาพร้อมเปรียบเทียบกับข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นในเกมกัน

แต่เมื่อคาวานี่ถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายของเกมนัดใด เขาสามารถหาช่องทางและจังหวัดในการเข้าทำประตูได้ทุก แต่โซลชาก็ยังคงให้นั่งในตำแหน่งม้านั่งสำรองต่อไป แม้กูรูหลายคนมองว่าในการทำศึกครั้งนี้กับเซลซี คาวานี่ต้องได้ลงในฐานะตัวจริงแน่นอน แต่ปรากฏว่าคาวานี่ไม่ได้ลงเลยตลอดทั้งเกม จนๆ แฟนและบอร์ดบริหารสงสัยว่าจะซื้อตัวมาทำไมถ้าเล่นได้ดีแล้วไม่ให้ลงสนามซะงั้น

อีกปัญหาหนึ่งที่กำลังแก้ไขคือคู่เซ็นเตอร์แบ็ก แต่เมื่อแลมพาร์ดเปลี่ยนระบบการเล่นมาเป็น 3-4-2-1 เชื่อแน่ว่าปัญหานี้จะหมดไปเพราะสามารถสร้างโอกาสในการต่อบอล ส่งบอลให้กองหน้าได้มากขึ้นและเปิดโอกาสให้วิงแบ็กทั้งสองข้างเบน ชิลเวลล์ และ รีซ เจมส์ สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมสามารถเจาะทะลุลุ้นทำประตูได้อีกด้วย

ผลการแข่งขัน ปีศาจแดงปะทะสิงโตน้ำเงินคราม

เกมนัดนี้ส่งผลสำคัญต่อนายทวารของเซลซีเป็นอย่างมากเพราะหลังจบเกมแลมพาร์ดถึงกับออกมาประกาศว่าต่อไปนี้เมนดี้คือนักเตะในตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม เพราะในเกมการแข่งขันครั้งนี้เมนดี้สามารถเชฟลูกยิงสุดอัตรายถึงสองครั้งจากนักเตะฝ่ายตรงข้าม แรชฟอร์ด และ มาต้า ในครึ่งแรก และยังสามารถซุปเปอร์เซฟอย่างเหลือเชื่ออีกครั้งในการซัดลูกของแรชฟอร์ดในครึ่งหลัง

สำหรับการพบกันในครั้งนี้ของทั้งสองทีม เมื่อเกมเริ่มขึ้นช่วงเวลาของการแข่งขันทั้งสองทีมต่างเล่นแบบระมัดระวัง และเซลซีเริ่มทำการครองบอลไม่มากกว่าและเริ่มบุกมาขึ้นตามแผนการเล่นระบบใหม่ของแลมพาร์ดถือว่าได้ผลดีทีเดียว และในนาทีที่ 18 เป็นเซลซีได้ทักทายถิ่มเจ้าถิ่นก่อนด้วยลูกยิงไกลของคริสเตียน พูลิซิช แต่ไปติดบล็อคเสียก่อน

นาทีที่ 31 ทีมปีศาจแดงมีโอกาสครั้งแรกบรูโน่ ยิ่งระยะไกลแต่เข้ามือเมนดี้ผู้รักษาประตูไว้ได้

ในนาทีที่ 35 เป็นอีกครั้งที่เซลซีกับระบบการเล่นใหม่สามารถทำเกมบุกและตั้งรับได้แข็งแกร่ง เมื่อเบน ชิลเวลล์แอสซิสบอลให้ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดการเช็คล่ำหน้าก่อนส่งบอลให้ติโม แวร์เนอร์ แต่เสียจังหวัดจับบอลไม่อยู่พลาดไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง ถัดมาอีก 1 นาทีกลับเป็นฝ่ายทีมปีศาจแดงได้โต้กลับอีกครั้งมาต้า ต่อบอลเร็วให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปกดด้วยขวาเต็มข้อแต่เมนดี้ยังสามารถใช้ขาสกัดบอลไว้ได้ รอดการเสียประตูไป

ในนาทีที่ 41 ปีศาจแดงบุกอีกครั้งเป็นแรชฟอร์ด จ่ายให้ ฆวน มาต้ากดด้วยซ้ายเต็มข้อก่อนที่เมนดี้ยังโชว์สกิลสุดยอดพุ่งปัดออกหลังด้านเสาไกล รอดการเสียประตูแบบหวุดหวิด ก่อนที่จะหมดครึ่งแรกไป 0 ประตูต่อ 0 เมื่อเริ่มครึ่งหลังมีเพียงไม่กี่จังหวัดที่สร้างความตื่นเต้นได้แต่ทั้งสองทีมก็สามารถทั้งรุกและรับได้อย่างสนุก ในนาทีที่ 91 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมปีศาจแดงโดยแรชฟอร์ด ปั่นบอลระยะไกลแต่ก็ไม่พ้นการบินของเมนดี้ ยังโชว์เหนืออีกครั้งปัดออกจากเสาไกลได้อีกหนจบเกมเสมอกันไป 0 ประตูต่อ 0

หลังจากเกม ปีศาจแดงปะทะ สิงโตน้ำเงินคราม จบลงถือว่าเซลซีไม่สามารถคว้าชัยชนะจากการพบกันของทั้งสองทีมติดต่อกันอย่างนานที่สุดถึง 7 นัด แต่เชื่อแน่ว่าในคราวหน้า ศึกครั้งต่อไปของแมนยูและเซลซี ผลเสมอจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นแน่นอน

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

ข่าวฟุตบอล :: ข่าวฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี

Line: @mokmun