บีจี ปทุม ได้ให้นักเตะตรวจโควิดทุกคน เผยใครผลบวกจะแยกกักตัวทันที

ข่าวสุดเนื่องมาจากก่อนนี้ทีม เมืองทอง ได้แจ้งข่าวออกมา และได้ขอโทษทุกฝ่ายหลัง มีร์ซาเยฟ ดาวเตะของทีมมีผลเป็นบวก และ มีร์ซาเยฟ เองก็ได้ลงสนามในนัดที่เจอ บีจี ปทุม ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอีกด้วย ล่าสุด นักข่าวของสยามสปอร์ต ได้รับการเปิดเผยจาก บีจี ปทุม ว่าวันนี้ทีม จะตรวจ RT-PCR แบบละเอียดเพื่อความชัดเจน และหากมีผู้เล่นคนไหนในทีมมีผลเป็นบวก หรือมองว่าอยู่ในข่ายที่มีโอกาสเสี่ยง ทาง บีจี ปทุม จะให้แยกผู้เล่นเหล่านั้นไปกักตัว แยกกับนักเตะในทีม และได้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ตามกฏของประเทศอย่างแน่นอน

และการตรวจโควิดในนักเตะทุกราย ทุกสโมสรในไทยลีกจะทำตามกฏของ ส.บอลไทย แบบเคร่งครัด และนักเตะในทีมทุกรายต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมง ก่อนเริ่มแข่งในเลก 2 ที่ผ่านมา และยังต้องตรวจ ATK เมื่อครบ 2วัน และทางต้นสังกัดต้องส่งผลตรวจให้ ส.บอลไทย อีกด้วย สำหรับทาง บีจี ปทุม จะมีการแข่งในศึก FA คัพ โดยจะเปิดรังรับการมาของ สิงห์เจ้าท่า ในวันพุธที่จะถึงนี้อีกด้วย แต่ทาง บีจี ปทุม มองว่าในเวลานี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะนักเตะในทีมยังอยู่ครบ ยังไม่พบใครที่มีผลเป็นบวก

ติดตามข่าวได้ที่ : วิเคราะห์บอล

เฮดโค้ช บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พาทีมตั้งเป้าหมายคว้าแต้มที่เหลือมาให้ได้

ทางผู้จัดการทีมพร้อมด้วยทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงก่อนจะทำการแข่งขันในการพบกับ เวียตเทล เอฟซี โดยทั้งสองทีมจะเจอกันในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ทีมมีคะแนนเท่ากันอยู่ที่ 3 คะแนน สำหรับตารางคะแนนทาง เวียตเทล นั้นอยู่ลำดับที่ 2 ตามมาด้วย บีจี ปทุมฯ ส่วนทางด้าน อุลซาน รั้งจ่าฝูงหลังเกมล่าสุดเอาชนะ บีจี ปทุม ไปได้ 2-0

โดยทางกุนซือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้กล่าวว่า หลังจากที่แพ้ในเกมที่ผ่านมาในทีมได้มีการแก้ไขรูปแบบการเล่น และในทีมตอนนี้โฟกัสไปที่ 2 เกมสุดท้ายเพราะมันจะมีความสำคัญกับทีมเป็นอย่างมาก ทางด้านทีมคู่ต่อสู้จัดได้ว่าเป็นทีมที่เก่งและมีการเล่นที่แตกต่าง ตอนนี้ทีมจะพยายามตัดจุดเด่นของเขาและปรับเปลี่ยนระบบทีมเพื่อให้ได้เปรียบมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ทั้งสองทีมต่างก็มั่นใจต้องรอดูผลสรุปของการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้น

ธีรศิลป์ แดงดา เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีม ไล่อัด ทีมคายา เอฟซี อิโลอิโล ไปถึง 4-1

‘เจ้ามุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าจอมเก๋าของสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผย หลังยิงประตูได้ถึง 2 ลูก ในเกมการแข่งขันนัดล่าสุดที่พวกเขาสามารถเอาชนะ ทีม คายา เอฟซี อิโลลิโอ ไปได้ 4-1 และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเขาเอง หลังจากได้ลงสนามฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนภายในทีมอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต บ่อยขึ้น โดยพร้อมช่วยต้นสังกัดคว้าแต้มสำคัญในเกมนัดต่อไปที่จะพบกับ อุลซาน ฮุนได

ธีรศิลป์ แดงดาว ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลังเกมว่า ”ผมมีความสุขมากที่ช่วยทีมเก็บคะแนน 3 แต้มแรกได้สำเร็จ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในระดับทัวร์นาเมนต์สูงสุด แห่งเอเซียครั้งนี้ และการทำประตูของผมในนัดแรกช่วยเรียกความมั่นใจของผมกลับมาได้ หลังจากที่ผมต้องเจอช่วงเวลาที่ย่ำแย่มาก่อนหน้านี้”

”ผลการแข่งขันทั้งหมด ทุกคนภายในทีมมีส่วนร่วมช่วยกันทำมันออกมาได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเราลงฝึกซ้อมกันมากขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งผมหวังว่ามันจะดีขึ้นกว่านี้ในนัดต่อไป”

”เกมนัดต่อไป เราจะพบกับทีมแชมป์เก่า ถือว่าเป็นเกมที่ยากมากเพราะพวกเขาแข็งเกร่งอย่างมาก แต่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเราเพื่อเป็นการทดสอบอีกขั้น และผมหวังจะล้มแชมป์เก่าให้ได้ตามเป้าหมายที่ผมวางเอาไว้”

ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ >>> วิเคราะห์บอล

‘กระต่ายแก้ว’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูงศึก โตโยต้า ไทยลีก ประกาศอย่างเป็นทางการคว้าตัว ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ดาวยิงสัญชาติบราซิเลียน มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าตัวจะสวมเสื้อเบอร์ 7 เตรียมล่าตาข่ายในการแข่งขันช่วงเลกที่สอง

BG Pathum United เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของสโมสร โพสต์คลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า ‘ได้เวลาเปิดกล่องปริศนา ที่ทุกคนสงสัย’ โดยมี ‘โค้ชโอ่ง’ ดุสิต เฉลิมแสน นำแสดง ก่อนจะเปิดเผยตัว ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต อดีตดาวยิงของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในสีเสื้อของ ‘เดอะ แรบบิท’

ด้านสโมสรเผยว่า “สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต แนวรุกชาวบราซิลวัย 33 ปี เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนักเตะได้เดินทางมาถึงประเทศไทยและเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นระยะเวลา 14 วัน”

“ก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการ ไล่ล่าแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020/21 และการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 7 ให้กับทัพ “เดอะ แรบบิท””

ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ทาง: thaisnews.com