โจชัว คิมมิช มิดฟิลด์ฝีเท้าขั้นเทพ เจ้าของฉายา “นิวฟิลิปป์ ลาห์ม”

โจชัว คิมมิช กองกลางสารพัดประโยชน์ที่เสือใต้ขาดไปไม่ได้ โจชัว คิมมิช (Joshua Kimmich) ผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์จากเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีม ที่หากว่าไม่เจ็บ หรือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เขามักจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวโฮลบอล หรือว่าจะเป็นการเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา จุดเด่นของคิมมิชนั้น เป็นผู้เล่นที่เล่นบอลฉลาด

ซึ่งจะหาผู้เล่นที่เล่นบอลง่ายๆ แต่ทุกจังหวะนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทุกการส่งบอล และจังหวะการรับบอลของคนร่วมทีม สามารถรับบอลจากคิมมิชแล้วเล่นต่อได้ในทันที ซึ่งการได้ลงเล่นที่บาเยิร์น มิวนิคนั้น ถือเป็นการยกระดับฝีเท้าของตัวเอง และยกระดับคุณภาพของทีมอีกด้วย ซึ่งระบบการเล่นของบาเยิร์นนั้นก็เอื้ออำนวยต่อสไตล์ของคิมมิชอีกด้วย คือการครอบครองบอล และทำเกมบุกตลอด ซึ่งตรงกับจุดเด่นของคิมมิช ที่สามารถทำได้ดีเสมอ ในช่วงที่ทีมกำลังทำการครองบอล และการแกะเพรซซิ่ง ในขณะที่ฝ่ายรับกำลังไล่กดดัน เพื่อแย่งบอลกลับมา คิมมิชเองก็สามารถเอาตัวรอดได้เสมอ โดยสามารถประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม

ด้วยการทำชิ่ง หรือจะเป็นการพลิกบอลหนีเอง ในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ การเล่นด้วยแท็คติคที่หลากหลายนั้น นอกจากจะต้องอาศัยความฟิต และเคยชินของร่างกายแล้ว ยังต้องอาศัยความเข้าใจเกมอีกด้วย ซึ่งคิมมิชเองก็เป็นผู้เล่นที่มีความเข้าใจในเกมเป็นอย่างดี ซึ่งเขาพร้อมจะเล่นตามแผนที่ผู้จัดการทีมวางไว้เสมอ ปัจจุบันคิมมิชยังคงทำผลงานได้ดี และยังคงลุ้นแชมป์ร่วมกับบาเยิร์นอยู่ ในฤดูกาล 2020/2021 โจชัว คิมมิช เกิดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1995 สูง 5 ฟุต 9 นิ้ว เล่นฟุตบอลในศูนย์กองกลาง/แบ็คขวา ปัจจุบันกำลังค้าแข้งให้กับบาเยิร์น มิวนิค โดนสวมเสื้อหมายเลข 6 แทนที่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่ย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุผลที่ทำให้คิมมิช ต้องหุบเขามาเล่นในตำแหน่งกองกลางมากขึ้น เนื่องจากย้ายออกไปของติอาโก้นั่นเอง

เป็นเด็กฝึกสอนของโบซิงเกน ก่อนที่จะไปเฉิดฉายที่สตุ๊ทท์การ์ท

โจชัว คิมมิชได้เล่นให้กับทีมเยาวชนของ เฟาเอฟเบ โบชิงเกน ซึ่งเป็นทีมแรกที่รับคิมมิชเข้ามาร่วมทีมด้วย ในปี 2007 หลังจากสร้างชื่อกับโบชิงเกน จนไดรับข้อเสนอดึงตัวไปร่วมทีมอย่าง เฟาเอฟเบ สตุทท์การ์ท ซึ่งเป็นอคาเดมี่ที่ได้ปลุกปั้นแข้งฝีเท้าดีมากมาย ออกมาประดับวงการหลายต่อหลายคนเช่น ซามี เคดิร่า กองกลางดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 โดยเขาเซ็นสัญญาเข้าเป็นหนึ่งในทีมเยาวชนของอากาศตั้งแต่ปี 2007-2013

รวมๆแล้วใช้เวลาถึง 6 ปี ในการบ่มเพาะ และพัฒนาฝีเท้าในสมัยที่ยังเป็นดาวรุ่ง สตุทท์การ์ท ซึ่งเขาสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนได้รับคำชม และถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมนีชุด U17 ในปี 2011 และก็เป็นขาประจำในทีมเยาวชนทีมชาติไปแล้ว โดยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนติดทีมชาติเลื่อนขั้นมาเป็นชุด U18 , U19 และสุดท้ายคือชุด U21ซึ่งคิมมิชก็ได้รับการคาดหวังว่า จะเป็นอนาคตของทัพอินทรีเหล็กชุดใหญ่

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ที่พร้อมลงเล่น และช่วยทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร รวมทั้งเนชั่นลีกส์ ซึ่งตัวเขาเองนั้น ก็มีความเป็นผู้นำในตัว และพร้อมที่จะเป็นผู้นำทีมชาติ ในอนาคตย่างแน่นอน ซึ่งการลงเล่นที่สตุทท์การ์ท ก็ได้รับการจับตามองจากทีมน้องใหม่ไฟแรง ที่พึ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก ก่อนที่จะอย่างซบทีมดังจากค่ายเรดบูลในท้ายที่สุด

คิมมิช ได้เซ็นสัญญาร่วมทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาล 2013/2014 โดยเขาลงเล่นในถิ่น Red Bull Arena ตั้งแต่ปี 2013-2015 เล่นให้กับไลป์ซิกไปทั้งหมด 53 เกมทำได้ทั้งหมด 3 ประตู จนฟอร์มการเล่นของคิมมิชนั้น ไปเข้าตาทีมยักษ์ใหญ่ แห่งศึกบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค จนถูกกระชากตัวเข้าร่วมทีมในท้ายที่สุด ด้วยความคาดหมายว่าจะเป็นตัวแทนของ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันของทีม

ที่อยู่ในช่วงระยะเวลาเต็มที คิมมิชมีคุณสมบัติ และสไตล์การเล่นที่คล้ายกับลาห์ม นั่นก็คือพลังงานที่ไม่มีวันหมด สามารถวิ่งขึ้นลงในฝั่งขวาได้ตลอด 90 นาที พร้อมกับวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล และการอ่านเกมที่พร้อมซัพพอร์ทเพื่อนร่วมทีมตลอด และเป็นผู้เล่นที่เล่นง่าย แต่ทรงประสิทธิภาพที่สุดคนหนึ่ง เช่นเดียวกันกับลาห์ม งั้นก็ยิ่งกว่านั้น ก็คือการเล่นศูนย์เดียวกันกับลาห์ม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับ หรือว่าจะเป็นแบ็คขวา และแบ็คซ้าย คิมมิชก็สามารถลงเล่นได้ทันที ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีม ว่าจะใช้งานเขาในตำแหน่งไหน

เริ่มสร้างความยิ่งใหญ่กับเสือใต้ ก่อนที่จะคว้าแชมป์ร่สมกัยทีมได้มากมาย

โจชัว คิมมิช ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้เล่นคนใหม่ของบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2015/2016 ฤดูกาลเดียวกับที่ดาวยิงสุดโหดประจำลีกอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาร่วมทัพเสือใต้เช่นเดียวกัน โดยในช่วงแรกนั้น คิมมิชยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก ภายใต้การคุมทีมของกุนซือสมองเพชรอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่พร้อมจะออกแบบแท็คติคใหม่ๆ มาให้ผู้เล่นได้ทดลองเล่นเสมอ โดยแผนการทำทีมของกวาร์ดิโอล่าในแต่ละเกมเขาใช้มากกว่า 3 แผนต่อการเจอ 1 ทีม ซึ่งสามารถสลับปรับเปลี่ยนได้ตลอด ในแต่ละเกม ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะสั่งเล่นแบบไหน แต่โดยหลักๆแล้วนั้นทีมของเป๊ปจะเน้นที่การครองบอลเป็นหลัก ซึ่งมันเข้ากับสไตล์การเล่นของคิมมิชได้พอดี จนในช่วงหลังเขาได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นกว่าที่เคย ลากยาวมาจนถึงยุคของ คาโล อันเชล็อตติ

หลังจากที่เป๊ปย้ายออกไปคุมทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของคาเล็ตโต้นั้นคิมมิชได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ในตำแหน่งกองกลางตัวรับและแบ็คขวา ซึ่งเขาถูกส่งลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาเป็นส่วนใหญ่ เขาได้ประสานงานร่วมกับผู้เล่นรุ่นพี่ในทีมอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจอมถล่มประตูหน้าอย่างเข้าขารู้ใจ ซึ่งเขาได้เรียนรู้และฝึกทักษะการออกบอล และการยืนตำแหน่งจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และทักษะในการเล่นเกมรับอย่างรัดกุมกับอันเชล็อตติทำให้เขาพัฒนาฝีเท้ายิ่งเรื่อยๆ มาถึงฤดูกาลล่าสุด ที่พาทีมคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ และเป็นหนึ่งในทีมชุดประวัติศาสตร์ ที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ไหมครั้งที่ 2 ได้อีกด้วย

เล่นได้อย่างสุดยอด จนถูกยกเรียกว่า “นิว ฟิลิปป์ ลาห์ม”

หลังจากที่เล่นได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลล่าสุด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติแล้วที่เขาจะถูกยกให้ไปเปรียบเทียบกับตำนานของสโมสร ที่มีอะไรหลายอย่างเหมือนกันอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม ด้วยคุณภาพของคิมมิชนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจเลย ที่จะถูกไปเปรียบเทียบกับผู้เล่นในระดับตำนาน เพราะวิธีการเล่นและจุดเด่นบางอย่าง รวมทั้งลักษณะท่าทาง มันคล้ายกันกับลาห์มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่ล้นเหลือ สามารถวิ่งได้ไม่หมด จนกว่าเสียงนกหวีดจบการแข่งขันจะดังขึ้น และที่สำคัญยังมีความเข้าใจเกมสูง สามารถเติมเกมรุกได้อย่างเมามันส์แ ละสามารถทำแอสซิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำ

ด้วยการประสานงานกับโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าดาวซัลโวของทีมในตอนนี้ ซึ่งในสถิติเกมที่พบกับกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเขานั้นเป็นผู้เล่นที่วิ่งเยอะที่สุดในสนาม โดยวิ่งไปทั้งหมดเป็นระยะทาง 13.73 km อีกหนึ่งความสามารถ ที่จะให้คิมมิชมีความโดดเด่น และได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม เหมือนกับฟิลปป์ ลาห์ม นั่นก็คือการที่เป็นผู้เล่นที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีความเข้าใจเกมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเล่นในตำแหน่งไหน เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นปีก ฟูลแบ็ค จะเป็นตำแหน่งไหนเขาก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าตำแหน่งสร้างชื่อเขานั้น จะเป็นแบ็คขวาและในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค แต่ก็สามารถขยับขึ้นสูงเป็นมิดฟิลด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือเกมรับ เขาก็สามารถทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้ง ตามที่แทคติกของโค้ชได้ตั้งเอาไว้

ยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลาง ของทัพเสือใต้ ในยุคของฟลิค

ในฤดูกาล 2020/2021 นั้น การย้ายออกไปของติอาโก้ อัลกันตาร่า ก่อให้เกิดช่องโหว่ใหญ่ในแดนกลาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาภายใต้การทำทีมของกุนซือคนใหม่ ที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมการเล่นของทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ให้สยองและโหดเหมือนดั่งที่เคยเป็นมาอย่าง ฮัน-ดีเทอร์ ฟลิค เขาได้จัดการปัญหาตรงนี้ ด้วยการขยับเอาคิมมิช มาเล่นเป็นกองกลางเต็มตัว โดยจับคู่ในการร่วมกับ ลีออน โกเรทซ์ก้า ซึ่งสามารถประสานงานกันได้อย่างเข้าขา ก่อให้เกิดความสมดุลย์ในแดนกลางของบาเยิร์น มิวนิค โดยได้หลีกทางในตำแหน่งแบ็คขวาให้กับ บูนาร์ ซาร์ และ เบนจาแม็ง ปาวาร์ด แบ็คขวาทีมชาติฝรั่งเศส ดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 สลับกันลงเล่น

ติดตามวิเคราะห์บอลได้ที่ https://www.thaisnews.com/